คุณกาญจนา ขันทอง อายุ 62 ปี ผู้เคยเป็นมะเร็งปอด
ข้อมูลของผู้ใช้นวัตกรรมบำบัดมะเร็ง ด้วยการกระตุ้น เซลล์ T พิฆาต ดังนี้
ตั้งแต่ปี 57-58 ผลตรวจเอกซเรย์ปอดพบจุดเล็กๆคาดว่าเป็นพังผืดธรรมดา
ปี 59 ผลตรวจเอกซเรย์ปอดชี้ว่าจุดนั้นโตขึ้นซึ่งอาจเป็นวัณโรคปอด
แพทย์ตรวจเพิ่มเติมโดย CT-Scan และเจาะชิ้นเนื้อไปตรวจพบก้อนมะเร็งขนาด 4 ซ.ม. 2 ก้อน และจุดเล็กๆอีกหลายจุดกระจายอยู่ที่กลีบซ้ายของปอด ไม่สามารถผ่าตัดได้ เพราะกระจายแล้ว น่าแปลกตรงที่ไม่มีอาการผิดปกติ ไม่เหนื่อย ไม่หอบ ไม่ไอ น้ำหนักไม่ลด ออกกำลังกายได้ ร่างกายแข็งแรงมาก
แพทย์ชวนเข้าโครงการวิจัยยาแอนตี้บอดี้ไม่ใช่ยาคีโม (1 เดือนให้ 2 เข็ม) ซึ่งในช่วงแรกให้ผลที่น่าพอใจ ก้อนยุบลง 1 ก้อน ส่วนอีกก้อนขนาดเล็กลงจาก 4 ซ.ม.เหลือ 3 ซ.ม. ตลอดเกือบ 2 ปีที่อยู่ในโครงการก้อนนี้นิ่งอยู่ที่ 3 ซ.ม.
จนกระทั่งขึ้นปีที่ 3 (เข็มที่ 49) ก้อนนี้เริ่มโตขึ้นจาก 3 ซ.ม. เป็น 4 ซ.ม. และ 5 ซ.ม.ตามลำดับ
แพทย์ที่ดูแลแจ้งว่าหากไม่โตมากกว่านี้ก็ไม่ต้องทำคีโม ต่อมาก้อนนี้กลับใหญ่ขึ้นเป็น 7-8 ซ.ม. แพทย์จึงนัดว่าอีก 3 เดือนคือวันที่ 5 พ.ย. 61จะให้คีโมแล้ว ตอนนั้นรู้สึกเคว้งคว้างมากจะหาอะไรมาดูแลดี? เพราะรู้สึกเหมือนขาข้างหนึ่งก้าวเข้าไปในโลงแล้ว
“พอดีจำได้ว่าเมื่อ 4-5 ปีก่อนเคยใช้นวัตกรรม APCO เพื่อเสริมสุขภาพอยู่ช่วงหนึ่ง จึงย้อนไปดูเฟสบุ๊คคลิปงานวิจัย APCO เพิ่มเติมเห็นคลิปคุณ C ที่เป็น AIDS ใช้แล้วดีขึ้นจึงปรึกษากับลูกก่อนตัดสินใจใช้นวัตกรรมนี้เมื่อเดือน ก.ย. 61 เป็นเวลา 2 เดือน”
จนถึงวันที่นัดไปทำคีโมคือวันที่ 5 พ.ย. 61
เมื่อไปถึง ร.พ.ได้รับการตรวจเลือดเพื่อดูความสมบูรณ์ของร่างกาย และเอกซเรย์ปอดเพื่อดูขนาดก้อนมะเร็ง หลังจากตรวจเสร็จแพทย์แจ้งให้กลับบ้านได้ ไม่ต้องให้คีโม ไม่เป็นอะไรให้รอไปก่อน เพราะตรวจไม่พบก้อนที่ปอด ทั้งที่ใช้นวัตกรรมนี้เพียง 2 เดือนเท่านั้น
ต่อมาผลตรวจล่าสุดวันที่ 15 ม.ค. 62 ยังคงปกติเหมือนเดิม และขยายเวลานัดตรวจเป็นอีก 3 เดือนข้างหน้าค่ะ