เชื่อว่าผู้ชายหลาย ๆ คนต้องกลัวมะเร็งต่อมลูกหมากเหมือนกับที่ผู้หญิงหลาย ๆ คนกลัวมะเร็งเต้านม เพราะสถิติจากหลากหลายสถาบันแสดงให้เห็นว่ามะเร็งต่อมลูกหมากนั้นเป็นชนิดของมะเร็งที่พบได้บ่อยเป็นอันดับต้น ๆ ของชายไทย ซึ่งปัจจัยเสี่ยงของการเกิดเนื้อร้ายนั้นโดยหลักแล้วก็มักจะพบในผู้สูงวัยโดยเฉพาะ 50 ปีขึ้นไป พันธุกรรม หากคนในครอบครัวเคยมีประวัติการเป็นมะเร็ง และพฤติกรรมการใช้ชีวิต นั่นหมายความว่าถ้าเริ่มอายุมากขึ้นยิ่งต้องหมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพราะมะเร็งเป็นโรคที่เมื่อเจอเร็วเท่าไหร่ก็จะยิ่งรักษาได้ง่ายขึ้นเท่านั้น การตรวจวัดค่ามะเร็งต่อมลูกหมากเบื้องต้นแล้วจะต้องดูค่า PSA (Prostate-Specific Antigen) โดยการเจาะเลือดเพื่อวัดระดับ ซึ่งโดยปกติแล้วควรจะอยู่ที่ประมาณต่ำกว่า 4 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตรในเลือด ค่า PSA นี้จะช่วยในการประเมินว่าผู้ที่ได้รับการตรวจนั้นเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากหรือไม่ ถ้ายิ่งสูงก็อาจจะบ่งชี้ได้ว่าเป็นมะเร็งระยะท้าย ๆ แล้ว
นอกจากการเป็นมะเร็งนั้นจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างกังวลแล้ว เพราะก้อนเนื้อร้ายนั้นจะไปทำลายระบบในร่างกายที่มีเซลล์มะเร็งอาศัยอยู่ แต่ความน่ากลัวจะยิ่งทวีคูณขึ้นเมื่อเชื้อเริ่มลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
คุณสุเทพ คือ ผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากที่เกิดการลุกลามไปทำลายไขกระดูกสันหลัง เขากลายเป็นอัมพาตครึ่งซีกล่าง ไม่สามารถเดินได้ ความรู้สึกตั้งแต่หน้าท้องลงไปนั้นไม่มีเลย ส่งผลให้คุณสุเทพต้องนอนติดเตียงอยู่เกือบปี
“ตอนนั้นอยู่มาวันหนึ่งปัสสาวะออกมาเป็นเลือด ผมคิดเลยว่าต้องมีอะไรบางอย่างในร่างกายผิดปกติ จึงรีบไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจ พอผลตรวจออกมาคุณหมอก็บอกว่าผมเป็นมะเร็งอย่างแน่นอน วันรุ่งขึ้นคุณหมอให้เข้าโรงพยาบาลเพื่อรีบผ่าตัดลูกอัณฑะออกทันที”
ในตอนนั้นคุณสุเทพ และภรรยาค่อนข้างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยังโชคดีที่ทั้งคู่อยู่คอยให้กำลังใจกัน สำหรับเหตุการณ์ในตอนแรกที่ตรวจพบก้อนเนื้อร้าย คุณอู๊ด ภรรยาคุณสุเทพได้เล่าให้ฟังเพิ่มเติมอีกว่า
“คุณหมอบอกเราว่าให้ทำใจนะ เตรียมจัดงานได้เลย แล้วในช่วงเดียวกันวันนั้นคุณสุเทพก็เดินลงจากเตียงไม่ได้แล้วค่ะ เขาก็ใจเสีย เราก็ใจเสีย”
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากว่าผลตรวจในตอนนั้น ค่า PSA ของคุณสุเทพขึ้นสูงมากไปจนถึงร้อย หมายความว่าอาการของเขาอยู่ในขั้นโคม่าแล้ว เซลล์มะเร็งได้ลุกลามไปจนถึงกระดูกสันหลัง หมอนรองกระดูกทรุด ทับปลายเส้นประสาทจนเป็นอัมพาตครึ่งตัว
แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้คุณสุเทพและคุณอู๊ดตั้งตัวแทบไม่ทัน แต่ทั้งคู่ก็ไม่คิดที่จะถอยหรือปล่อยให้โชคชะตามากำหนดชีวิต ตัวคุณสุเทพเองที่เป็นผู้ป่วยก็ไม่ได้มีความคิดลบจนมองสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเลวร้ายให้บั่นทอน ตัวคุณอู๊ดเองก็ตั้งใจที่จะดูแลสามีของตนให้ดีที่สุดเท่าที่คนรักหนึ่งคนจะทำได้ คุณสุเทพบอกเล่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นในวันนั้นว่า
“ผมใจเสียครับ"
จิตใจห่อเหี่ยวพอสมควรแต่ไม่ถึงขั้นนึกไปว่าตัวเองจะตาย เพราะนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของการรักษา เชื่อว่าสักวันต้องกลับมาเดินได้ ตอนที่เจาะเลือดออกมาตรวจแล้วคุณหมอบอกว่าค่า PSA ขึ้นจาก 4 ไปเป็นร้อย ตอนนั้นก็ยังไม่รู้หรอกครับว่าค่า PSA คืออะไร รู้แค่ว่ามันค่อนข้างจะอันตราย ก็ทำใจดีสู้เสือครับ อย่างที่บอกว่าเพิ่งเริ่มรักษา ถ้ารักษาไปนาน ๆ แล้วไม่ดีขึ้นเลยสักนิด อันนี้แหละครับที่น่ากลัวและผมคงเตรียมตัวนับถอยหลังชีวิตเลย
นับว่าคุณสุเทพเป็นคนที่มองโลกได้น่าสนใจมาก ความหวังในใจที่เขาสร้างขึ้นมานั้นอยู่บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง สมเหตุสมผล แล้วก็ไม่ได้กดให้จิตใจอยู่ในสภาวะที่มองโลกแต่ในแง่ร้ายด้วย ส่วนในมุมมองของคุณอู๊ดก็มีความเป็นนักสู้ไม่ต่างจากสามีเลย
“ประมาณ 9 เดือนที่เขานอนติดเตียงเป็นอัมพาตครึ่งตัวคือจากสะดือลงมาถึงเท้านี่ขยับไม่ได้เลย เราก็ต้องดูตลอดเลยค่ะว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง ยังหายใจอยู่ไหม พยายามสู้ทุกทาง อยู่ด้วยกันมานานเราก็ต้องสู้และดูแลเขาอย่างดีที่สุด แต่ถ้าวันหนึ่งเขาไม่หายใจก็คิดว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดและรับให้ได้ค่ะ”
ต้องบอกว่าทั้งจิตใจของผู้ป่วยและคนรักที่ดูแลอย่างใกล้ชิดนั้นมีความแข็งแกร่งมาก ๆ นี่คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้อาการของคุณสุเทพดีขึ้น ซึ่งนอกเหนือจากความตั้งใจที่จะต่อสู้กับเนื้อร้ายอย่างไม่ท้อถอยแล้ว วิธีการที่จะรักษาก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญมาก ความโชคดีของคุณสุเทพเกิดขึ้นในวันที่คนรู้จักมาเยี่ยมที่โรงพยาบาลแล้วแนะนำให้รู้จักกับการรักษาด้วย “ภูมิคุ้มกันบำบัด”
ในวันที่คุณสิริวรรณ ซึ่งเป็นเพื่อนกับพี่สาวของคุณอู๊ดนำผลิตภัณฑ์ APCO มาให้คุณสุเทพ เขาก็รับประทานในวันนั้นทันที คุณสิริวรรณได้อธิบายที่มาที่ไปของนวัตกรรมตัวนี้ว่ามาจากไหน ทำจากอะไร และผู้คิดค้นก็คือ ศ.ดร. พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา และคณะวิจัย Operation BIM ซึ่งเป็นสิ่งที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อดูแลรักษาสุขภาพของผู้คน หลังจากที่คุณสุเทพรับประทานได้ประมาณ 1 เดือนก็เริ่มเห็นผลลัพธ์แล้วว่าร่างกายสดชื่นแข็งแรงขึ้น ขาเริ่มมีน้ำมีนวลและเริ่มมีความรู้สึกเมื่อได้รับการสัมผัส โดย ศ.ดร. พิเชษฐ์ ได้อธิบายกรณีของคุณสุเทพเอาไว้ว่า
“ในตอนที่เขาใช้แล้วเริ่มขยับขาได้ ลุกขึ้นมานั่งได้ ก็รู้สึกดีใจกับเขามากเลยครับ จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ เดินได้นิดหน่อย คือจะให้กลับไปเดินได้เท่าเดิมมันแทบจะเป็นไปได้ยาก เนื่องจากกระดูกและเส้นประสาทโดนทำลายไปแล้ว ถ้าหากว่าไม่มีนวัตกรรมตัวนี้ก็อาจจะลามไปเรื่อย ๆ จนถึงแก่ชีวิต ซึ่งนี่ลามเข้ากระดูกก็ถือว่าอาการค่อนข้างน่าเป็นห่วงมาก เรียกได้ว่าแทบจะระยะสุดท้ายของสุดท้ายด้วยซ้ำนะครับ เพราะฉะนั้นผลิตภัณฑ์ตัวนี้ที่ให้รับประทานก็คือ 9 เม็ดแล้วก็มีน้ำมังคุดเสริมให้อีก เพื่อที่จะกระตุ้นเม็ดเลือดขาว Killer T cell หรือเซลล์ T พิฆาตให้ไปฆ่าเซลล์มะเร็ง และเพื่อป้องกันไม่ให้มีการกระตุ้นมากเกินไปจนเกิดอาการอักเสบจึงต้องใช้น้ำมังคุดช่วยปรับสมดุล และยังสามารถช่วยสร้าง Natural T cell ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการจัดการกับเซลล์มะเร็งอีกด้วย”
โดยหลักการของผลิตภัณฑ์ APCO นั้นจะเป็นในแง่ของ “ภูมิคุ้มกันบำบัด” เมื่อใช้แล้วร่างกายจะสามารถสร้างเม็ดเลือดขาวภูมิคุ้มกันส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นและสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคร้ายในร่างกายได้ มะเร็งก็เป็นอีกหนึ่งเชื้อโรคร้ายที่เมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่มากพอ เซลล์เม็ดเลือดขาวภูมิคุ้มกันก็จะสามารถฆ่าก้อนเนื้อร้ายเหล่านั้นได้
หลังจากที่ใช้ผลิตภัณฑ์ APCO ได้สักระยะ โดยใช้เวลาเพียงหลักเดือนเท่านั้น คุณสุเทพก็ค่อย ๆ ดีขึ้นจากอาการอัมพาตครึ่งตัว เขาเริ่มช่วยเหลือตัวเองได้ในบางเรื่อง ความรู้สึกของเขาและภรรยาแทบจะบรรยายออกมาได้อย่างยากลำบาก มันช่างเอ่อล้นและคุ้มค่ากับการต่อสู้เสียจริง
“บอกได้คำเดียวว่า ก็ดีใจสิครับ"
"มันเหมือนเรามีความหวังที่จะกลับมาเดินได้ เพราะการที่ผมเป็นอัมพาตมันคือการเริ่มจากศูนย์เลย เดินไม่ได้ ไปไหนมาไหนไม่ได้ ร่างกายช่วงล่างก็ไม่มีความรู้สึก แต่พอหลังจากได้ใช้ผลิตภัณฑ์ APCO ช่วงตั้งแต่เข่าลงมาก็เริ่มมีความรู้สึก ขาเริ่มเคลื่อนไหวได้ วันนั้นรู้สึกว่า โอ้โฮ ดีใจมาก ๆ เลยครับ”
ไม่ใช่แค่คุณสุเทพเท่านั้นที่มีความปิติยินดีกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น คุณอู๊ดก็ได้เล่าเรื่องราวในวันนั้นด้วยรอยยิ้มกว้างเช่นกัน
“พอวันที่เขาขยับเท้าได้ วันนั้นเป็นวันที่ดีใจมากเลยค่ะ"
"รู้สึกมีกำลังใจว่าที่ดูแลมาทั้งหมดไม่เสียเปล่าเลย เขาสามารถลุกขึ้นนั่งเองแล้วก็ห้อยเท้าลงได้ เริ่มเกาะตามขอบโต๊ะ ขอบตู้ เพื่อพาตัวเองไปเข้าห้องน้ำได้ มันแบบว่า...โห ดีใจมากเลย”
รอยยิ้มที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าของทั้งคู่นั้นพลอยทำให้ทีมงานทุกคนต่างรู้สึกปลื้มปริ่มกันถ้วนหน้า จากวันที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันไหนจะกลับมาขยับขาได้อีกครั้ง แต่ในวันนี้ก็เริ่มมีความรู้สึกกับร่างกายครึ่งล่าง เชื้อมะเร็งก็ต่ำกว่า 0 มาได้ถึง 2 - 3 ปีแล้ว เลยจุดที่เรียกว่าโคม่าแล้ว ที่เหลือก็เป็นเรื่องของการดูแลสุขภาพเพื่อฟื้นฟู แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ก็เชื่อว่าคุณสุเทพและคุณอู๊ดผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะมาก ๆ เลยทีเดียว
สุดท้ายนี้คุณสุเทพฝากบอกเพื่อนร่วมโลกทุกคนมาว่า ถ้ารู้สึกว่าตนเองมีอาการป่วยหรือผิดปกติทางร่างกาย ให้รีบไปพบแพทย์ พยายามอย่าซื้อยากินเอง เพราะตัวคุณสุเทพเองนั้นละเลยกับการไปตรวจสุขภาพมาโดยตลอด และเมื่อป่วยก็เลยอาการค่อนข้างหนักอย่างที่เล่ามา ถ้ารู้เร็วก็จะรักษาได้เร็วไม่ต้องมีช่วงเวลาที่ทรมานยาวนานขนาดนี้ แต่ก็ยังโชคดีที่มีภรรยาคอยดูแลด้วยความรัก ได้มารู้จักกับผลิตภัณฑ์ APCO และ ศ.ดร. พิเชษฐ์ ทำให้เขาได้มีชีวิตใหม่ที่ดีในปัจจุบัน
ปี 2537 คุณหว่องรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งครั้งแรกคือเป็นที่ โพรงจมูก คุณหว่องเข้ารับการรักษาแบบผ่าตัด แต่ไม่ทำให้ดีขึ้น ทั้งยังเจ็บป่วยจากอาการหวัดอยู่ตลอดเวลา
ครั้งแรกที่ Mr.Nicholas ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก คุณหมอแจ้งว่าเป็นระยะลุกลามแล้ว ซึ่งตัวเลขค่า PSA ค่อนข้างน่าตกใจ คือสูงในระดับ 90 ขึ้นไปแล้ว
ภูมิคุ้มกันเป็นสิ่งที่ช่วยได้มากสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำเคมีบำบัดและรังสีบำบัด ถ้าร่างกายแข็งแรงมากพอ ผลข้างเคียงก็แทบจะไม่มีอย่างแน่นอน
คุณโหนก ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวระยะที่4 สามารถรักษาได้ด้วยนวัตกรรมภูมิคุ้มกันบำบัด จากความทรมานกับโรคร้ายกลับกลายเป็นชายวัย 75 ปีที่แข็งแรง
BIM100 หมายถึง การปรับสมดุลของภูมิคุ้มกัน เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและยืนยาวให้ได้ 100 ปี ด้วยการใช้สูตรอาหารที่วิจัยและพัฒนาโดยคณะนักวิจัย Operation BIM
ศูนย์บริการลูกค้า สุขและสวย โดย BIM100 เลขที่ 99 ศูนย์การค้าเอสพลานาด ชั้น 3 ห้องเลขที่ 317 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
สายด่วน : 1154
โทรศัพท์ : 02-6464-800 , 02-6609-011
โทรสาร : 02-6464-802
อีเมล์ : [email protected]
Line ID : @bim100callcenter