ระบบภูมิคุ้มกันสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติมอบให้เราเพื่อดูแลร่างกายของเรา เป็นกองกำลังธรรมชาติคอยต่อสู้กับเชื้อโรคหรือที่แปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย วันนี้แอดจะพาไปดู ขั้นตอนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันอันยอดเยี่ยมของเรา ว่าในแต่ละแผนกเค้าทำงานกันอย่างไร มีขั้นตอนอย่างไร ที่เป็นกลไกในการสู้กับเชื้อโรคที่เข้ามาในร่างกาย
แนวตั้งรับ
1.ด่านผิวหนัง
ผิวหนัง : ผมอยากจะเห็นเจ้าเชื้อโรคที่สามารถขุดผ่านกำแพงหนังหนาๆนี้เข้าไปได้! ปัญหาก็คือ มนุษย์ชอบเกาหรือทำให้ผิวหนังมีบาดแผล ปล่อยให้เชื้อโรคเข้ามาได้
2.ด่านน้ำมูก
รู้จักกันดีในหมู่นักตั้งรับมืออาชีพอย่างเราๆว่า “เมือก” น้ำเหนียวๆของจมูก หลอดลม หรือลำไส้ปิดกั้นผู้บุกรุกและมีสารที่ฆ่าเชื้อโรคบางอย่างได้ ทัพหน้าของเราซึ่งประจำการที่นี่คือ มาสต์เซลล์(mast cell) ซึ่งจะรับคำสั่งปล่อยสารฮีสทามีน (histamine) ออกมา สารตัวนี้จะไปขยายช่องว่างระหว่างเซลล์ในผนังหลอดเลือด เพื่อให้เซลล์เม็ดเลือดขาวหน่วยรบสังหาร(T-cell) ออกจากเลือดและเข้าต่อสู้กับผู้บุกรุกในระหว่างนั้นน้ำมูกเหลวๆจะถูกปล่อยออกมา พัดพาศัตรูออกไป
สรุปง่ายๆของตรงนี้คือ เวลาเราป่วยแล้วมีน้ำมูก คือกระบวนการที่ระบบภูมิคุ้มกันทำเพื่อไล่เชื้อโรคออกมาจากร่างกาย ในน้ำมูกจึงมีเชื้อโรคอยู่เยอะ นั่นหละแม่ถึงได้บอกว่าอย่าแคะจมูก
3.1 จากเหตุการณ์ที่ช่องว่างระหว่างเซลล์ขยายตัวขึ้นส่งผลให้หลอดเลือดโตขึ้นตามธรรมชาติและเลือดปริมาณมากขึ้นก็ไหลเข้าไปในบริเวณดังกล่าว ทำให้มันร้อน นั่นคือสาเหตุที่ ทำไมอวัยวะที่มีเชื้อโรคจึงดูแดงและบวม
3.2 เชื้อโรคตายได้ ถ้าอยู่ในที่ที่ร้อนเกินไป ดังนั้นเราจึงต้องวางแผนให้พวกมันเหงื่อตก โดยการเพิ่มอุณหภูมิของเลือด! เซลล์เม็ดเลือดขาวส่งสัญญาณเคมีไปยังสมอง ซึ่งตอบสนองด้วยสารเคมีที่ทำให้ร่างกายสร้างพลังงานเร็วขึ้น เกิดความร้อนมากกว่าปกติ ผิวหนังจะซีดลง ในขณะที่เลือดถูกเก็บไว้ลึกเข้าไปภายในร่างกาย ทำให้ไม่สูญเสียความร้อนไปสู่อากาศ มนุษย์เรียกอาการเช่นนี้ว่า “ไข้” ผมเรียกมันว่าเทคนิคที่ดีใช้ได้
1. Killer T cell ทำลายสิ่งแปลกปลอม ลาดตระเวนและเข้าจู่โจมเชื้อโรคทั้งหมดที่พบ
2. T-helper cell เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสาร สามารถแยกแยะเชื้อโรคและสร้างสัญญาณเคมีเพื่อเตือนกองทัพ B cell และสั่งให้ Killer T cell เคลื่อนทัพ
3. T-suppressor cell ทำหน้าที่ยับยั้งไม่ให้หน่วยอื่นๆรุกล้ำและเข้าจู่โจมด้วยกำลังที่มากเกินไป ซึ่งอาจเกิดความเสียหายต่อร่างกาย
บี = รหัสลับสุดยอดทางทหาร เป็นศูนย์กลางฝึกซ้อมไขกระดูก ที่ซึ่งกองทัพได้รับการรวมพลและฝึกซ้อม
เมื่อรู้ว่าเป็นเชื้อโรคแล้วจะเรียก กำลังเสริม B cell อื่นๆ มาช่วยกันจับสิ่งแปลกปลอมบริเวณนั้นด้วย และอีกความสามารถของ B cell คือ จะจำชนิดเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายมาแล้วได้ ทำให้ถ้าครั้งหน้ามีเชื้อโรคชนิดเดิมมาอีก ระบบภูมิคุ้มกันจะจัดการได้เลย ทำให้เราไม่ป่วยด้วยเชื้อไวรัสเดิมอีก
นี่คือจรวดนำวิถีที่กองทัพของเราใช้ในการดักจับและทำลายแอนติเจน แอนติบอดีแต่ละตัวได้รับการออกแบบพิเศษให้มีความจำเพาะในการจัดการกับแอนติเจนแต่ละชนิด ทำให้แอนติเจนถูกจับ จากนั้นจะถูกหน่วยรถถังเข้ามาขม้ำ
หน่วยรถถัง เราเรียกหน่วยนี้ว่า แมคโครฟาจ (macrophage)
มีหน้าที่จัดการกับแบคทีเรียผู้รุกราน ที่ถูกจับกุมไว้แล้ว โดยจะยื่นแขนกลและดึงนักโทษเข้าไปข้างในตัว ทั้งหมดจะถูกย่อยทั้งเป็น!
สถานีรบ ระบบภูมิคุ้มกัน
ข้อมูลจากนักภูมิคุ้มกันวิทยาในปัจจุบันบอกว่า Th17 เป็นเม็ดเลือดขาวที่จะหลั่งสาร Interleukin-17 และ Interleukin-22 ซึ่งความสำคัญของสารทั้ง 2 ตัวนึ้คือ
เมื่อไหร่ที่มีโรคระบาดครั้งใหญ่ หรือโรคร้ายใหม่ๆที่คร่าชีวิตคนเป็นวงกว้างได้ระดับโลก สิ่งที่จะถูกพูดถึงเพื่อหาทางออกเรื่องโรคร้ายๆ นั้นคือ วัคซีน หรือยา ที่จะช่วยรักษาชีวิตคนไว้ได้
บทความนี้ เราจะพาไปทำความรู้จักกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานเพื่อต่อสู้กับโรคร้ายๆโดยการหาวิธีรักษา โดยศึกษาจากระบบภูมิคุ้มกันของเรา และต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคทั้งจากแบคทีเรียหรือไวรัส
ภูมิคุ้มกันบำบัด คือ สิ่งที่ธรรมชาติสร้างให้กับเรามา เพื่อดูแลสุขภาพของเรา แล้วเราจะต้องมีภูมิคุ้มกันสมดุลอยู่เสมอ ถ้าหากว่าเรามีภูมิคุ้มกันมากไป ก็จะเกิดอาการแพ้ภูมิตัวเอง
BIM100 หมายถึง การปรับสมดุลของภูมิคุ้มกัน เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและยืนยาวให้ได้ 100 ปี ด้วยการใช้สูตรอาหารที่วิจัยและพัฒนาโดยคณะนักวิจัย Operation BIM
ศูนย์บริการลูกค้า สุขและสวย โดย BIM100 เลขที่ 99 ศูนย์การค้าเอสพลานาด ชั้น 3 ห้องเลขที่ 317 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
สายด่วน : 1154
โทรศัพท์ : 02-6464-800 , 02-6609-011
โทรสาร : 02-6464-802
อีเมล์ : [email protected]
Line ID : @bim100callcenter